- 10 ผักและผลไม้ที่มีวิตามินสูงที่สุด - กรมอนามัย
- ผัก 10 ชนิดที่คนรักสุขภาพไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง | Prosoft Family
เห็ด เห็ดมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ต่ำมาก เห็ดขาวดิบ 1 ถ้วย (70 กรัม) ให้คาร์โบไฮเดรตเพียง 2 กรัมเท่านั้น โดยมีไฟเบอร์ 1 กรัม นอกเหนือจากนี มันยังมีคุณสมบัติต่อต้านอาการอักเสบได้ดีอีกด้วย งานวิจัยชิ้นหนึ่งให้ผู้ชายที่เป็นโรคอ้วนลงพุง รับประทานเห็ดขาว 100 กรัม เป็นเวลา 16 สัปดาห์ ผลการวิจัยพบว่า ผู้ชายเหล่านั้นมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ และต่อต้านการอักเสบเพิ่มขึ้น 4. ผักโขม ผักโขมเป็นผักใบเขียวที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย? นักวิจัยพบว่า มันสามารถช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ DNA ได้นอกจากนี้มันยังบำรุงหัวใจและลดความเสี่ยงของโรคทางสายตาเช่น ต้อกระจก และจอตาเสื่อม ได้อีกด้วย นอกเหนือจากนี้ ผักโขมยังเป็นแหล่งวิตามินและเกลือแร่ที่ดีหลายชนิด ผักโขมที่ปรุงสุกแล้ว 1 ถ้วย (180 กรัม) ให้วิตามินเคมากกว่าปริมาณที่แนะนำต่อวันถึง 10 เท่า นอกจากนี้ผักโขมยังมีคาร์โบไฮเดรตน้อยเช่นกัน 5. อะโวคาโด ถึงแม้ว่า อะโวคาโดจะเป็นผลไม้ทางเทคนิคแล้ว แต่เรายังรับประทานอะโวคาโดในรูปของผักอยู่ มันมีปริมาณไขมันที่สูง และปริมาณคาร์ไบไฮเดรตที่ย่อยได้น้อย อะโวคาโดยังอุดมไปด้วยกรดโอเลอิค (Oleic Acid) ซึ่งเป็นไขมันเชิงเดี่ยวไม่อิ่มตัวที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ งานวิจัยเล็กๆหลายชิ้นพบว่าอะโวคาโดสามารถลดระดับคอเรสเตอรอล LDL และ ไตรกลีเซอไรด์ได้ นอกเหนือจากนี้ อะโวคาโดยังเป็นแหล่งของวิตามินซี โฟเลต (Folate) และโพแทสเซียม (Potassium) อีกด้วย มากไปกว่านั้นยังมีประโยชน์ต่อการควบคุมน้ำหนักเช่นกัน?
10 ผักและผลไม้ที่มีวิตามินสูงที่สุด - กรมอนามัย
3 ผักคะน้าฝรั่ง (Collard Greens)
เป็นผักที่นอกจากจะมีประโยชน? มากเป็นอันดับ 3 แล้ว ใบที่มีสีเขียวสดสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 10 วัน ถ้าแช่เย็นไว้ โดยประโยชน์ของผักชนิดนี้ที่เด่นชัดคือ มีความพิเศษสำหรับระบบร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนามะเร็งและการป้องกันโรคมะเร็ง นั่นคือ ระบบดีท็อกซ์ของร่างกาย ระบบต่อต้านอนุมูลอิสระและระบบอักเสบหรือต้านการอักเสบ ซึ่งความเรื้อรังในระบบทั้งสามนี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ และในผักคะน้าฝรั่งยังมีสาร Goitrogen ซึ่งมีผลทำให้ต่อมไทรอยด์ไม่จับกับไอโอดีน อันเป็นต้นเหตุให้เกิดของโรคคอหอยพอก
No. 2 ผักโขม (Spinach)
ไม่ผิดเลยที่ป๊อปอาจจะกินผักโขมแล้วมีพลัง เพราะผักโขมเป็นผักที่โดดเด่นในการฟื้นฟูพลังงาน เพิ่มพลังและปรับปรุงคุณภาพของเลือด เพราะอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก แถมยังเป็นแหล่งวิตามินเค วิตามินเอ วิตามินซี และโฟเลตที่ดี รวมทั้งเป็นแหล่งแมงกานีส แมกนีเซียม เหล็ก และวิตามิน B2 ที่ดี ซึ่งวิตามินเคจะช่วยในการบำรุงรักษาสุขภาพกระดูก นอกจากนี้ผักโขมยังทำหน้าที่เป็นแหล่งอาหารเสริมต่างๆ ได้แก่ ไฟเบอร์ ฟอสฟอรัส วิตามินบี 1 สังกะสี โปรตีนและโคลีน และเป็นแหล่งรวมกรดไขมันโอเมก้า 3 วิตามินบี 3, กรด pantothenic และซีลีเนียม
No.
- ส เป ค s9 plus
- 10 ผักผลไม้เพื่อสุขภาพ ประโยชน์เพียบ กินบ่อยแข็งแรง
- Lenovo ideapad 310 15isk ราคา driver
- 15 ผักที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำที่ดีที่สุด | รักบ้านเกิด | LINE TODAY
แตงกวา แตงกวามีคาร์โบไฮเดรตต่ำและยังทำให้สดชื่นได้ด้วย ถึงแม้ว่าแตงกวาจะมีวิตามินและเกลือแร่ไม่มากนัก แต่มันมีสารประกอบที่เรียกว่า Cucurbitacin E ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย? จากผลงานวิจัยในแล็ปและการศึกษากับสัตว์ พบว่า มันสามารถช่วยต้านมะเร็งและการอักเสบได้ อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพของสมองอีกด้วย 11. คื่นช่าย คื่นชายมีคาร์โบไฮเดรตที่ต่ำมาก คื่นชายหั่นแล้ว 1 ถ้วย (101 กรัม) มีคาร์โบไฮเดรต 3 กรัม โดยมีไฟเบอร์ในนั้น 2 กรัม อีกทั้งยังเป็นแหล่งของวิตามินเคที่ดี โดยมีวิตามินเค 37% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน นอกเหนือจากนี้ คื่นช่ายยังมีลูทีโอลิน (Luteolin) ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ลดความเสี่ยงและช่วยรักษาโรคมะเร็ง 12. มะเขือเทศ มะเขือเทศเป็นผักที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย และยังเป็นแหล่งของวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินเค ที่ดีอีกด้วย นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียมซึ่งช่วยลดความดันเลือดและลดความเสี่ยงของเส้นเลือดอุดตัน ยังมีงานวิจัยระบุว่า มันสามารถช่วยทำให้เซลล์เอนโดทีเลียม (Endothelial) ซึ่งเป็นเซลล์ในหลอดเลือดแดงแข็งแรงขึ้น อีกทั้งปริมาณไลโคปีน (Lycopene) ที่สูงยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วย 13.
ผัก 10 ชนิดที่คนรักสุขภาพไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง | Prosoft Family
6 ฟักทอง (Pumpkin)
ไม่ว่าจะเป็นฟักทองลูกเล็กหรือลูกใหญ่ก็ล้วนอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือ นอกจากนี้ยังมีโพแทสเซียมที่มีผลดีต่อความดันโลหิต พร้อมกันนี้สารต้านอนุมูลอิสระในฟักทองยังช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดจากความเสื่อมของดวงตาได้ นอกจากนี้ฟักทองยังเป็นแหล่งเบต้าแคโรทีนที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งบางชนิด ป้องกันโรคหอบหืด โรคหัวใจ ชะลอความชราและความเสื่อมของร่างกาย และฟักทองยังมีไฟเบอร์ที่ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดดีจึงดีมากต่อคนเป็นโรคเบาหวาน รวมทั้งช่วยให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ให้เป็นปกติและช่วยระบบการย่อยอาหาร และลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
No. 5 ผักเทอร์นิพ (Turnip greens)
มีวิตามินที่ละลายในไขมันและวิตามินที่ละลายน้ำได้ และยังเป็นแหล่งของสารประกอบกำมะถันที่มีชื่อเรียกว่า glucosinolates ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามินซี ช่วยลดความเสี่ยงต่อความเครียดที่เกิดจากออกซิเดชั่น และโรคเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดแดงและโรคไขข้ออักเสบ
No. 4 ผักสวิสชาร์ด (Swiss Chard)
พืชตระกูลเดียวกับบีทรูท แต่ไม่มีหัว นิยมกินใบและก้าน เป็นผักที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญ อย่างวิตามินบี ได้แก่ วิตามิน B1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 วิตามิน B6 กรดโฟโตเทนอล โฟเลตและโคลีน และมีแร่ธาตุมากมาย เช่น แมกนีเซียม เหล็ก แมงกานีส ทองแดง โพแทสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส ซีลีเนียมและสังกะสี วิตามินอีและวิตามินเอ รวมอยู่ในหมวดหมู่วิตามินที่ละลายในไขมัน และมีทั้งเส้นใย นอกจากนี้ยังมีวิตามินซี ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระในระดับดีเยี่ยม และมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบ
No.
สตรอเบอร์รี่ วิตามินซี 58. 8 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม สตรอเบอร์รี่ถือว่าเป็นผลไม่ที่อุดมไปด้วยโภชนาการที่หลากหลายทั้ง วิตามินและแร่ธาตุ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็ง ช่วยในการบำรุงดวงตาและลดการเสื่อมสภาพของดวงตา และพบว่าในสตรอเบอร์รี่สดจะให้วิตามินในปริมาณมาก 4. ฝรั่ง วิตามินซี 160 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม แม้ฝรั่งจะเป็นผลไม้ที่ไม่มีรสเปรี้ยว แต่ก็อุดมไปด้วยวิตามินซีในปริมาณมากโดยพบได้บริเวณเปลือกของฝรั่ง แต่เมื่อฝรั่งสุกแล้วจะมีปริมาณวิตามินซีที่น้อยลง หรือฝรั่งที่ตัดออกจากต้นแล้วทิ้งไว้เป็นเวลานานก็จะทำให้วิตามินซีเสื่อมสภาพลงได้ 5. ลิ้นจี่ วิตามินซี 71.
- คอย เย็น อี โค โน่